ReutersReuters

USA:สหรัฐเผยการจ้างงานพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในมี.ค.,อัตราว่างงานลดลง

วอชิงตัน--10 เม.ย.--รอยเตอร์

  • กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐพุ่งขึ้น 236,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขคาดการณ์ที่ 239,000 ตำแหน่ง และทางกระทรวงได้ปรับทบทวนตัวเลขของเดือนก.พ.ให้สูงขึ้นด้วย โดยระบุว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรทะยานขึ้น 326,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขเดิมที่ +311,000 ตำแหน่ง ทางด้านอัตราการว่างงานปรับลงจาก 3.6% ในเดือนก.พ. สู่ 3.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดในรอบกว่า 50 ปี ส่วนค่าแรงเฉลี่ยต่อชั่วโมงปรับขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. ในขณะที่ค่าแรงเฉลี่ยต่อชั่วโมงแบบเทียบรายปีปรับขึ้น 4.2% ในเดือนมี.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 4.6% ในเดือนก.พ. ทั้งนี้ ถึงแม้การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง การจ้างงานในบางภาคธุรกิจก็ปรับลดลงปานกลาง โดยเฉพาะการจ้างงานในภาคโรงงานที่ปรับลดลงราว 1,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งถือเป็นการปรับลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนการจ้างงานในภาคก่อสร้างปรับลดลง 9,000 ตำแหน่ง และการจ้างงานในภาคค้าปลีกดิ่งลง 14,600 ตำแหน่ง

  • ภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานช่วยดึงดูดให้มีประชากรจำนวนมากยิ่งขึ้นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกำลังแรงงาน โดยกำลังแรงงานในสหรัฐเพิ่มขึ้น 480,000 คนในเดือนมี.ค. และปัจจัยนี้อาจจะจำกัดการปรับขึ้นค่าแรงในอนาคต ทางด้านอัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานสหรัฐ หรือสัดส่วนของประชากรวัยทำงานที่มีงานทำหรือกำลังหางานทำ ปรับขึ้นจาก 62.5% ในเดือนก.พ. สู่ 62.6% ในเดือนมี.ค. โดยอัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานสำหรับประชากรผิวดำพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 ทั้งนี้ สัดส่วนการจ้างงานต่อประชากรสหรัฐ ซึ่งถือเป็นมาตรวัดความสามารถของเศรษฐกิจสหรัฐในการสร้างงานใหม่ ปรับขึ้นจาก 60.2% ในเดือนก.พ. สู่ 60.4% ในเดือนมี.ค. ในขณะที่สัดส่วนของประชากรอายุ 25-54 ปีที่มีงานทำพุ่งขึ้นสู่ 80.7% ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2001

  • อัตราการว่างงานสำหรับประชากรผิวดำดิ่งลงจาก 5.7% ในเดือนก.พ. สู่สถิติต่ำสุดที่ 5.0% ในเดือนมี.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่รัฐบาลสหรัฐเริ่มจัดทำตัวเลขนี้ในปี 1972 เป็นต้นมา และการดิ่งลงในเดือนมี.ค.ถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2021 ด้วย ทั้งนี้ นายบิล อดัมส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโคเมริกากล่าวว่า "ข่าวนี้ถือเป็นข่าวดี และถือเป็นสัญญาณที่ช่วยสร้างความมั่นใจสำหรับวัฏจักรธุรกิจ เพราะว่าในอดีตนั้นชาวสหรัฐผิวดำถือเป็นประชากรกลุ่มสุดท้ายที่มีอัตราการว่างงานดิ่งลงในช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัว และถือเป็นประชากรกลุ่มแรกที่มีอัตราการว่างงานพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย"

  • การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 345,000 ตำแหน่งต่อเดือนในไตรมาสแรก ซึ่งสูงกว่า 3 เท่าของระดับการจ้างงานที่จำเป็นต้องเพิ่มขึ้นเพื่อให้ทันกับอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรวัยทำงาน ทั้งนี้ ถึงแม้การจ้างงานในเดือนมี.ค.ชะลอการเติบโตลงเมื่อเทียบกับเดือนก.พ. การชะลอตัวลงนี้ก็เป็นเพราะว่า การจ้างงานในเดือนม.ค.และก.พ.เคยได้รับแรงหนุนจากภาวะอากาศที่อบอุ่นผิดปกติ และแรงหนุนนั้นจางหายไปในเดือนมี.ค.

  • จำนวนชั่วโมงทำงานเฉลี่ยต่อสัปดาห์ปรับลดลง 0.1 ชั่วโมง สู่ 34.4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในเดือนมี.ค. โดยเป็นผลจากการลดลงของจำนวนชั่วโมงทำงานในภาคการผลิตสินค้า นอกจากนี้ ตำแหน่งงานชั่วคราวก็ดิ่งลง 10,700 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.ด้วย และสิ่งนี้บ่งชี้ว่าการจ้างงานอาจจะชะลอการเติบโตในอนาคต--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

ログイン、もしくは永年無料のアカウントを作成して、このニュースを読みましょう

Reutersからその他のニュース

その他のニュース