ReutersReuters

JAPAN:วิเคราะห์บีโอเจอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากแค่ไหน

  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กำลังวางรากฐานเพื่อปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ยังคงปล่อยให้ตลาดคาดเดาว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเมื่อไหร่ และในอัตราเท่าใด หลังจากที่บีโอเจได้ยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในเดือนมี.ค. และขึ้นเป้าหมายนโยบายระยะสั้นสู่ระดับ 0.25% ในเดือนก.ค. และนายคาสุโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการบีโอเจกล่าวเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ว่า เศรษฐกิจกำลังมีความคืบหน้าไปสู่เงินเฟ้อที่มีค่าจ้างขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดที่แสดงว่า การขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งกำลังใกล้เข้ามา

  • เขายังพูดถึงประโยชน์ของการขึ้นดอกเบี้ยในเวลาที่เหมาะสม โดยกล่าวว่า การปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นจากระดับต่ำเป็นพิเศษจะช่วยทำให้เศรษฐกิจขยายตัวในระยะยาว ซึ่งเป็นความเห็นที่เหมือนกับสิ่งที่เคยใช้ในวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยครั้งก่อนของบีโอเจในปี 2007 ซึ่งนายโตชิฮิโกะ ฟูกูอิ ผู้ว่าการในขณะนั้นกล่าวว่า การทยอยถอนมาตรการกระตุ้นก่อนกำหนดจะช่วยทำให้เศรษฐกิจขยายตัวในระยะยาวอย่างมีเสถียรภาพด้วยการยับยั้งภาวะฟองสบู่

  • นายอูเอดะมั่นใจว่า ค่าจ้างจะปรับขึ้นต่อไป และจะหนุนการบริโภค ซึ่งจะทำให้บริษัทต่างๆสามารถขึ้นราคาต่อไปได้ ซึ่งจะเข้าเงื่อนไขสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยอีก และแม้จะเตือนถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และความผันผวนในตลาด แต่บีโอเจก็จะไม่รอจนกว่าความเสี่ยงดังกล่าวทั้งหมดจะหายไป ซึ่งบ่งชี้ว่า เขาเปิดกว้างรับการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 18-19 ธ.ค.

  • ถ้าเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อไป บีโอเจก็จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นสู่ระดับที่เป็นกลาง หรือระดับที่นโยบายการเงินไม่ทำให้เศรษฐกิจหดตัวหรือขยายตัว และการขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับที่เป็นกลาง บีโอเจก็จะสามารถกำจัดสิ่งที่มองว่าเป็นมาตรการกระตุ้นทางการเงินส่วนเกิน และบีโอเจได้จัดทำคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่โดยใช้รูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลางแท้จริงที่ปรับตามเงินเฟ้อนั้นจะอยู่ในกรอบ -1% ถึง +0.5% นั่นหมายความว่า ถ้าเงินเฟ้อบรรลุเป้าหมาย 2% บีโอเจก็จะสามารถขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นสู่ระดับ 1% เป็นอย่างต่ำได้โดยที่ไม่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง และเมื่อดูจากคาดการณ์ปัจจุบันที่ทำไว้ในเดือนต.ค. บีโอเจคาดว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะเคลื่อนตัวใกล้ระดับที่เป็นกลางในช่วงครึ่งหลังของระยะคาดการณ์ 3 ปีจนถึงเดือนมี.ค.2027 ซึ่งบ่งชี้ถึงเวลาสักระยะหลังเดือนต.ค.2025

  • นอกจากอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลาง การเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนจะมีผลอย่างมากต่อจังหวะเวลาในการขึ้นดอกเบี้ย โดยเยนอ่อนเป็นปัจจัยหนึ่งที่เคยกระตุ้นให้บีโอเจขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ค. เนื่องจากทำให้ต้นทุนสินค้านำเข้าและเงินเฟ้อโดยรวมเพิ่มขึ้น อีกทั้งความไม่แน่ใจต่อนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรับสร้างความยุ่งยากให้แก่การตัดสินใจของบีโอเจด้วย เพราะนโยบายหลายนโยบายของเขาถูกมองว่ากระตุ้นเงินเฟ้อ และอาจขัดขวางธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากการลดดอกเบี้ยมากเกินไป จึงทำให้เยนอ่อนค่าเทียบดอลลาร์

  • ตลาดจะรอดูข้อมูลเงินเฟ้อเดือนต.ค.ที่จะออกมาในวันที่ 22 พ.ย.นี้เพื่อหาสัญญาณที่บ่งชี้ว่า บริษัทต่างๆกำลังผลักต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้นผ่านการขึ้นราคาบริการหรือไม่ รวมทั้งการเปิดเผยผลสำรวจภาคธุรกิจรายไตรมาส "ทังกัน" ของบีโอเจในวันที่ 13 ธ.ค. ซึ่งถ้าข้อมูลพบความแข็งแกร่งในความเชื่อมั่นทางธุรกิจ, แผนการใช้จ่ายด้านทุน และคาดการณ์เงินเฟ้อภาคเอกชน นั่นก็อาจจะเพิ่มโอกาสที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า--จบ--

Eikon source text

ログイン、もしくは永年無料のアカウントを作成して、このニュースを読みましょう

Reutersからその他のニュース

その他のニュース