* ผ่านไปอีก 1 ปี สำหรับชีวิตการออกมาเป็นเทรดเดอร์ + โค้ช แบบ Full-time ของผม รวมสิริเวลาก็ 3 ปีกว่าๆ แล้วครับ ผมยอมรับว่า ปีนี้ เป็นปีที่ผมได้ตกผลึกข้อผิดพลาดที่เจอมาตลอด 2 ปีกว่า ทำให้ปีนี้สามารถเทรดแล้ว "มีกำไร" เกินเป้าที่ตั้งไว้ได้ อย่างค่อนข้างมาก โดยได้กำไรมาทั้งหมด 52% จากเป้าที่ตั้งไว้ 20% ครับ
* ผมเลยขอมานั่งเรียบเรียงและสรุปบทเรียนทั้งหมด ที่สำคัญๆ ที่ได้เจอมา List เอาไว้ตรงนี้ เพื่อที่ผมเอง จะได้กลับมาอ่านได้ ในอนาคตครับ
--------------------
1) จงหาระบบการเทรด TF Daily ที่ไม่เร็ว และไม่ช้าเกินไป และผล Backtest ออกมาดี มีกำไร เอามาใช้และทำตามมันอย่างเคร่งครัด
2) ต้องแบ่งพอร์ตออกเป็นสามส่วน ตามที่ลุงโฉลกเคยสอน นั่นคือ พอร์ตระยะสั้น(พอร์ต Gambling ) พอร์ตระยะกลาง ( พอร์ตใช้ระบบ ) และพอร์ตระยะยาว ( พอร์ต DCA ) เพราะแต่ละพอร์ต จะช่วยในเรื่อง อารมณ์ของเรา แตกต่างกันออกไป
3) การมีเงินสด สำคัญที่สุด เพราะจะทำให้เราสามารถซื้อสินค้าใดๆ ยามเกิด Big Discount ได้
4) การนั่งเฉยๆ เพื่อรอทำตามระบบ แม่งยากที่สุดละ ( ไม่ว่าจะเป็นนั่งเฉยๆ งดเทรด เมื่อระบบแดง หรือนั่งรันกำไรเฉยๆ เมื่อระบบเขียว )
5) ระบบแดง ก็อย่าดื้อ เพราะมันสามารถช่วยชีวิตเราได้ ถ้าตลาดมันจะลงหนักจริง โดยมี case study ช่วง covid เดือน Mar 2020 เป็นตัวอย่าง
6) ระบบเขียว ก็อย่าดื้อ เพราะรอบที่มันเขียวรอบนี้ มันอาจจะขึ้นจริงก็ได้ โดยมีเคสเขียวแรกเมื่อ 11 Oct 2020 เป็นตัวอย่าง
7) สัญญาณเม่า โผล่มาในกราฟ ก็อย่านิ่งนอนใจ Take Profit ไปบ้างก็ได้ แต่ถ้ามีไม้ต้นทุนดี ก็ต้องเก็บไว้รันเทรน อย่าออกหมด ค่อยออกหมดตอนทุกระบบแดง ( เคส DELTA, ทอง และ SET1400 เมื่อต้นปี ) เป็นตัวอย่าง
8) พอร์ตระบบตกรถไปแล้วก็ไม่เป็นไร นั่งรอไปเรื่อยๆ เดี๋ยวคันใหม่ก็มา แต่ระยะยาว ( DCA ) ต้องทำไว้ ห้ามขี้เกียจ เพราะมันจะช่วยให้เราไม่รู้สึกตกรถในตลาดกระทิง
9) อย่า SHORT สวน เทรน ขาขึ้น เด็ดขาด!
10) อย่าเถียงตลาด โดยเฉพาะตอนที่เราติด Position ในทิศทางตรงข้ามกับตลาด ( เช่น ตลาดขาขึ้นแต่เสือกติด short / หรือตลาดขาลงแต่เสือกติด long ) Go with the flow-The trend is your friend.
11) ทุกครั้งที่เข้าซื้อ เราต้องตอบตัวเราเองได้เสมอว่า รอบนี้ ถ้าผิดทาง เราจะยอมเสียตังเท่าไหร่? กี่% ของพอร์ต
12) อย่าเอากำไรของตัวเองไปเทียบกับคนอื่น ให้เราเทียบกับเป้ากำไรของตัวเองที่เราตั้งไว้ แล้วเราจะสบายใจ
13) การตัดการรับรู้ข่าวสาร จากเพจต่างๆ หรือเว็บข่าวต่างๆ จะทำให้เราสามารถอยู่กับแผนที่เราตั้งไว้ได้ดียิ่งขึ้น และไม่ไขว้เขวได้ง่ายๆ
14) เราเข้ามาตลาด เพื่อทำกำไร ไม่ใช่มาวัดกันว่าแนวคิดใครถูกใครผิด อันไหนทำแล้วไม่ได้กำไร ก็อย่าไปทำ ( เช่น สะสม XRP เรื่อยเปื่อยโดยไม่ได้ดูกราฟเลยว่ามันไม่มีเทรนใดๆ )
15) ในจุดที่ตลาดกลัวถึงขีดสุด ให้เราวางเงินไว้ 20-30% ของพอร์ต เพื่อมาดักช้อนเลย โดยอย่าไปกลัวไรมากตามเขา ส่วนที่เหลือก็ค่อยเข้าอีกทีตอนระบบเขียว
16) อย่า Overtrade ด้วยพอร์ตใหญ่ เด็ดขาด เพราะถ้าตลาดผันผวนแรง คุณจะโดนเตะออกจากตลาดทันที ถ้าอยาก overtrade ให้แบ่งกำไรบางส่วนไปจัดหนักได้ในพอร์ตพนัน -- พอร์ตใหญ่ให้เทรดด้วย 1x เท่านั้น ( spot )
17) อย่าไป chase the market ไล่ราคาตอนกราฟวิ่งแรงๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนกราฟวิ่งขึ้นหรือกราฟวิ่งลง เพราะจะกลายเป็นมือใหม่ที่ long ที่ยอด short ที่ก้นเสมอ... ถ้ากราฟวิ่งก็นั่งรอดูเฉยๆ รอให้กราฟมีการย่อ/ดีด และออกข้าง แล้วค่อยหาจังหวะเข้า
18) ไม่ต้องเทรดบ่อยๆ เทรดทุกวัน ก็ทำกำไรได้ อย่างปีนี้พอร์ตคริปโต ผมเทรดไม้ใหญ่ๆ แค่ 5 ครั้ง ยังสามารถทำกำไรได้ถึง 80%
19) การเทรดบางท่า ก็ทำกำไรได้เยอะเพราะการทบต้น เช่น การเทรด USDT ของสหายคริปโต ที่ได้กำไรประมาณเดือนละ 3% จากการเทรดเดือนละ 3-4 ครั้ง
20) ถ้าเข้าไปแล้ว และยังไม่ชน SL ก็อย่าไปรีบออกตอนย่อ หรือรีบเก็บกำไรตอนดีด นั่งนิ่งๆ รอจนกว่าจะถึงเป้า
21) ถ้าไม้เสี่ยง หรือไม้ระบบ ที่เราเก็บกำไรออกมาแล้ว แล้วราคามันไปต่อ ( ขายหมู ) ก็ให้นั่งดูเฉยๆ รอจังหวะรอบหน้า เพราะการไปรีบซื้อโดยไม่มีแผน ส่วนใหญ่มักจะพัง
22) เราไม่ต้องวิ่งตามทุกเหรียญที่มันขึ้นก็ได้ Focus แค่ Bitcoin ตัวเดียว ก็ทำกำไรให้ถึงเป้ารายปีที่เราตั้งไว้ได้เหมือนกัน ถ้าอยากจะไล่ตามเหรียญก็ให้เอากำไรไปหยอดเล่นขำๆ แก้เบื่อ แต่อย่าไป all-in เพราะแทบทุกเหรียญ altcoins คือขยะ และตัวหลอก ที่จะทำให้สมาธิเราเสียไป
23) อย่าไปเชื่อกูรูมาก ให้ทำตามแผนของเราที่ตั้งไว้อย่างเคร่งครัด ถ้าอยากเชื่อกูรู ให้แบ่งเงินมาซื้อแล้วถือไว้แบบโง่ๆ ตามกูรูบอก โดยไม่หวั่นไหวไปตามราคาที่ขึ้นลง
24) มือใหม่หลายๆ คนทนดอยมาได้นานเป็นปีๆ แต่พอราคากลับมาเท่าทุนก็รีบขายไม่ยอมทนถือต่อ -- อย่าเป็นอย่างคนเหล่านี้ -- วิธีแก้ก็คือ ต้องมีระบบและแผนการเข้าซื้ออยู่ในใจเสมอ ถ้าระบบแดงก็ต้องขายตัดขาดทุนออกมาถือเงินสดหมด อย่าไปทนดอยแล้วฝันกลางวันว่ามันจะกลับไปที่เดิม
25) การที่เราสามารถกล้านั่งวิเคราะห์ข้อผิดพลาดของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมา ไม่หมกเม็ด เป็นสกิลที่สำคัญมาก เพราะมันจะทำให้คุณเห็นปัญหาของตัวเอง และหาทางแก้ไขได้ ในอนาคต
26) ช่วง Sideway พยายามเทรดให้น้อยที่สุด เพราะจะเป็นช่วงที่ตลาดทำกำไรได้ยากมากๆ และกราฟมันจะขึ้นๆ ลงๆ ให้เราปวดหัว และพอสัญญาณซื้อมาจริงเราก็จะไม่กล้าเข้า พยายามเก็บพลังกายพลังใจ เอาไว้เข้าตอนระบบเขียว หรือมีการ confirmation Break Out กรอบสะสมชัดๆ ทีเดียวดีกว่า
27) กำไรที่เราได้มาง่ายๆ โดยไม่รู้ว่า ได้มาเพราะอะไร สักพัก ตลาดก็จะเอาคืนไปจนหมด
28) อย่าไปทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก การเทรด พยายามทำให้มันง่ายที่สุดไว้ก่อน เช่น หาแนวรับแข็งๆ ให้เจอ แล้วถ้ากราฟ Break Out กรอบ ก็ค่อยซื้อ โดย SL ที่ใต้แนวรับ หรือใช้ระบบอย่าง Action Zone เขียวก็ซื้อแดงก็ขาย หรือถ้าย่อลงมา -50% ถึง -70% จากยอดก็ให้จับเข้าใส่ watchlist เพื่อรอจังหวะเข้าซื้อ .. อย่าไปใช้ระบบที่ subjective เช่นนับเวฟมาเป็นตัวบอกจุดเข้าออก เพราะเรายิ่งนับเราจะยิ่งมั่วและงงเอง
29) เวลาระบบบอกให้คัท บอกให้ถือเงินสด ก็ออกมาก่อน อย่าไปดื้อ ถ้าระบบเขียวใหม่ก็ค่อยเข้าใหม่ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณเถียงระบบ .. ความชิบหายก็จะตามมาในไม่ช้า
30) Take Profit บางส่วนไปบ้างก็ได้ ถ้ามันทำให้เราสบายใจ ไม่จำเป็นที่จะต้องรันเทรนไปจนสุด เพราะเราไม่รู้อนาคตว่า มันจะไปต่อหรือจบแค่นี้
จริงๆ ก็ยังมีอีกหลายๆ เรื่องแหละ บางเรื่องก็เคยเขียนไปแล้วตอนเริ่มปี 2020 สำหรับปีนี้เอาเท่านี้ก่อนครับ