หลังจากมีความชัดเจนเรื่องนโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ราคาหุ้นที่เคยอยู่แถวๆ 5 บาท เริ่มมีแรงซื้อเข้ามา
โดยวันที่ 31 มีนาคม 2564 ได้มีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา โดยมีราคาปิดที่ 6.30 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดเท่ากับที่เคยทำไว้ก่อนหน้านั้น (20/7/63)
วันที่ 1 เมษายน 2564 ราคาขึ้นมาทำ all time high ที่ 6.80 บาท โดยมีราคาปิดที่ 6.65 บาท
วันที่ 2 เมษายน 2564 ได้มีการทุบเพื่อเป็นการสะบัดรายย่อยออก ราคาลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 6.30 บาท (ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ)
ก่อนมีการเก็บหุ้นคืน โดยมีราคาปิดที่ 6.55 บาท ราคาลดลงจากวันก่อนหน้า 0.10 บาท
ซึ่งเป็นการพักตัวเพื่อไปต่อ ระหว่างทางอาจมีการสะบัดเป็นระยะๆ
โดยวันที่ 31 มีนาคม 2564 ได้มีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา โดยมีราคาปิดที่ 6.30 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดเท่ากับที่เคยทำไว้ก่อนหน้านั้น (20/7/63)
วันที่ 1 เมษายน 2564 ราคาขึ้นมาทำ all time high ที่ 6.80 บาท โดยมีราคาปิดที่ 6.65 บาท
วันที่ 2 เมษายน 2564 ได้มีการทุบเพื่อเป็นการสะบัดรายย่อยออก ราคาลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 6.30 บาท (ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ)
ก่อนมีการเก็บหุ้นคืน โดยมีราคาปิดที่ 6.55 บาท ราคาลดลงจากวันก่อนหน้า 0.10 บาท
ซึ่งเป็นการพักตัวเพื่อไปต่อ ระหว่างทางอาจมีการสะบัดเป็นระยะๆ
コメント:
ราคาหุ้นเปิดตลาดรอบบ่ายที่ 5.95 บาท แล้วสามารถยืนได้ โดยมีราคปิดที่ 6.10 บาท ปรับตัวลดลง 0.45 บาท -6.87% ปริมาณหุ้น 17,877,656 หุ้น มูลค่าการซื้อขาย 108.35 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 6.06 บาท โดย set ปรับตัวลดลง 16.61 จุด
コメント:
ความกังวลโควิดจะระบาดรอบใหม่ กดดันให้ราคาหุ้นปิดที่ 5.90 บาท ลดลง 0.20 บาท -3.28% ปริมาณหุ้น 10,023,996 หุ้น มูลค่าการซื้อขาย 59.35 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 5.92 บาท ส่วน set ปรับตัวลดลง 23.10 จุด
コメント:
ความกังวลโควิด ยังกดดันราคาหุ้นต่อไป ในวันนี้ ราคาหุ้นปิดที่ 5.95 บาท ลดลง 0.05 บาท -0.85% ปริมาณหุ้น 15,515,715 หุ้น มูลค่าการซื้อขาย 91.82 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 5.92 บาท ส่วน set ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.27 จุด ปิดที่ 1,558.83 จุด
ซึ่งเกิดจากความกังวล หลายอย่าง
คือ ตัวหุ้นติด Cash Balance เป็นวันแรก
และ set ปรับตัวลดลง 17.10 จุด จากความกังวล สถานะการณ์ โควิด 19 ที่อาจมีการระบาดรอบใหม่