2022年8月3日
วานนี้ทองคำไม่สามารถถึงฝันเหนือ 1800 ได้หลังดอลลาร์ได้แรงหนุนกลับมาอีกครั้ง ทองคำวานนี้ปิดบวกไป 2 ดอลลาร์ จากความวิตกกังวลต่อความขัดแย้งใหม่ที่เสี่ยงจะเกิดขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น จนทำให้วานนีัทองคำกลับขึ้นไปทำ High ใกล้ๆ กับระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทำจุดสูงสุดของวันเมื่อวานนี้ที่ระดับ 1805 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตลาดสัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นอีก 2 ดอลลาร์หรือ 0.11% ปิดที่ราคา 1,789.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำโดนสกัดการพุ่งขึ้นเมื่อวานนี้จากการแข็งค่าของดอลลาร์อีกครั้งหลังเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่อีกครั้ง จนทำให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่ากดดันราคาทองคำที่มีราคาที่แพงขึ้น ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งปล่อยเทขายทำกำไรจากความกังวลดังกล่าว แต่ก็มีนักลงทุนส่วนหนึ่งที่วางเป้าหมายทำกำไรในบริเวณ 1800 เช่นกัน ทำให้ราคาบริเวณดังกล่าวเกิดความไม่สมดุลย์ ทั้งนักลงทุนที่มองเห็นกำไรที่เริ่มลดลงเกิดความกังวลต่อผลกำไรรอบนี้ก็เทขายออกมาเพื่อปรับฐานราคากันใหม่อีกครั้ง ทองคำจึงเป็นสิ่งที่เวลานี้ต้องมีการวางแผนสำรองการคาดหมายไว้มากกว่า 1 แผนเสมอ เจ้าหน้าที่เฟดคือ แมรี เดลี่ ประธานเฟดในซานฟรานซิสโก ได้ออกมากล่าวกับสำนักข่าว CNBC ว่า “เฟดยังมีหนทางอีกยาวไกล ก่อนที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในความควบคุมได้ ซึ่งน่าจะชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น” และเจ้าหน้าที่อีกคนคือ นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดประจำชิคาโก ได้ออกมาระบุว่ามีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสำคัญอีกครั้ง ข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นเหตุให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่ากดดันทองคำให้ไม่สามารถกลับไปเหนือระดับ 1800 ดอลลาร์ได้ แต่ทั้งนี้ภาพรวมทองคำก็ยังมีนักลงทุนเฝ้าติดตามสถานการณ์ระดับราคาที่เหมาะสมในการเข้าทำกำไรต่อเนื่องเสมอ โดยเมื่อทองคำขยับขึ้นก็มักจะมีการทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะๆ ทางเทคนิควันนี้ภาพรวมทองคำยังเห็นการปรับฐานราคาเหนือบริเวณ Support zone 1746-1755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากวันนี้ทองคำไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็อาจส่งผลให้ราคาทองคำกลับมาอ่อนค่าลงไปได้อีกครั้ง ทั้งนี้เราได้ประเมินแนวรับต้านสำคัญที่ระดับ 1768 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำผ่านตรงจุดนี้ไปได้ ก็ยังเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าซื้อขายในระยะสั้นๆ ได้ ใครที่รับความเสี่ยงได้ก็อาจเสี่ยงเปิดซื้อทำกำไรระยะสั้นที่ระดับแนวต้าน 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหร้บเป้าหมายกำไรระหว่างวัน หากทองคำได้รับแรงหนุนเหนือแนวต้าน 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ประเมินแนวทำกำไรระหว่างวันที่ระดับ 1796-1803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ =================================กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง ================================= Short Position : รอขายบริเวณ 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้ พิจารณเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายที่แนวรับ 1767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวได้ก็ให้ชะลอการทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน พิจารณาแนวรับถัดไปที่ 1746-1755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาขยับขึ้นเหนือกว่า 1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์) Long Position : รอซื้อทองคืนหากราคาทองคำปรับตัวลงมาที่บริเวณ 1755-1746 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พิจารณาเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายการทำกำไรที่ 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถขยับขึ้นไปเหนือกว่าก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวทำกำไรถัดไปประเมินที่ 1796-1803 ดอลลาร์ต่อออนซ์แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง) ------------------------------------------- Resistance :1780 / 1803 / 1836 ------------------------------------------- Support : 1756 / 1727 / 1681 -------------------------------------------แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น) ------------------------------------------- Resistance : 1781 / 1790 / 1796 ------------------------------------------- Support : 1754 / 1746 / 1733 -------------------------------------------แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้ Time Frame H1 = Uptrend Time Frame H4 = Uptrend Time Frame Day = Downtrend Time Frame Week = Uptrend Time Frame Month = Uptrend -------------------------------------------------กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน) ------------------------------------------------- สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -2.90 ตัน คงถือสุทธิ = 1,002.97 ตัน ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,760.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับการถือครองครั้งที่ = 1 รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -2.90 ตัน ------------------------------------------------- *การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง **ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง ***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต